EGCO Group ปิดดีล 3 โครงการใหญ่ ทุ่ม 30,000 ล้าน โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ เพิ่มพอร์ตพลังงานหมุนเวียน แทนเชื้อถ่านหิน

ในปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยที่ท้าทายหลายด้าน ทั้งจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และนโยบายทางการเงินที่เข้มงวด ส่งผลให้อุตสาหกรรมพลังงานถูกกดดัน ทำให้ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่ออัตรการเติบโตของเศรษฐกิจ

ประกอบกับทั่วโลกกำลังมุ่งเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาดเข้ามามีบทบาททดแทนพลังงานจากฟอสซิลมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ทิศทางการมุ่งสู่การลดอุณหภูมิโลก พร้อมกันกับนโยบายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2050

นี่คือปัจจัยแห่งความท้าทายในการขับเคลื่อนธุรกิจ เอ็กโก กรุ๊ป (EGCO Group) ให้เติบโตไปพร้อมกันกับความเปลี่ยนแปลงของพลังงานโลก จึงวางกลยุทธ์การลงทุนที่เลือกซื้อกิจการ หรือร่วมทุนในรูปแบบการควบรวมกิจการ (Merger and Acquisition : M&A) เพื่อรับรู้รายได้ทันที (M&A)เป็นวิธีการขยายพอร์ตลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านพลังงานได้รวดเร็ว

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group เปิดเผยถึงแผนผลการดำเนินงานและกลยุทธ์การลงทุนว่า EGCO Group จึงเดินหน้าขยายการลงทุนโดยมุ่งเน้นโครงการโรงไฟฟ้าที่มีการผลิตคุณภาพสูง ซึ่งเป็นกลุ่มก๊าซธรรมชาติและเชื้อเพลิงเป็นหลัก ภายใต้กลยุทธ์ “4S” จึงเลือกเข้าไปซื้อหุ้นโครงการที่สอดคล้องกับแผนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด ด้วยการใช้งบลงทุน 30,000 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องเป็นไปตามเป้าหมายเพิ่มกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นอีก 1,000 เมกะวัตต์  อีกทั้งยังเป็นการขยายพอร์ตโครงสร้างธุรกิจ (โฟลิโอ) พลังงานหมุนเวียนเข้ามาแทนการผลิตไฟฟ้าจากฟอสซิล ตลอดจนแสวงหาโอกาสพลังงานที่เกี่ยวเนื่องภายใต้กลยุทธ์ “4S”

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO group พร้อมลุยก่อสร้างโครงการ Yunlin ให้เสร็จภายในปลายปีนี้ เตรียมรับรู้รายได้เพิ่มจากการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบและการขายโครงการพลังงานหมุนเวียนภายใต้บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ APEX และโอกาสการต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวของโรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปินส์ที่คาดว่าจะทราบผลการเจรจา เร็วๆ นี้

ควบรวม 3 ธุรกิจ
ปักธงพลังงานอนาคต สหรัฐ อินโด

สำหรับโครงการที่ EGCO Group เข้าไป M&A ใน 3 โครงการขนาดใหญ่ ประกอบด้วย

1.การซื้อหุ้น 49% ในโรงไฟฟ้า RISEC กำลังผลิต 609 เมกะวัตต์ ในหรัฐอเมริกา

2.และการซื้อหุ้น 50% ในกลุ่มโรงไฟฟ้า Compass กำลังผลิตรวม 1,304 เมกะวัตต์ ในสหรัฐอเมริกา

3.การซื้อหุ้น 30% ใน CDI เพื่อขยายสู่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ในอินโดนีเซีย

นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของโครงการ Yunlin ในไต้หวัน และการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของโครงการพลังงานหมุนเวียนภายใต้ APEX ในสหรัฐอเมริกา

“โดยในปี 2566ที่ผ่านมา EGCO Group สามารถปิดดีลการลงทุนได้ 3 โครงการ ทั้งโครงการในสหรัฐอเมริกาและในอินโดนีเซีย มีปัจจัยที่ท้าทายหลายด้าน ทั้งจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และนโยบายทางการเงินที่เข้มงวด กดดันราคาพลังงาน สร้างการเติบโตทางธุรกิจโดยเลือกลงทุนในโครงการที่มีคุณภาพสูง ในรูปแบบ M&A เพื่อรับรู้รายได้ทันที”

สำหรับผลงานการรับรู้รายได้ ในรายได้เต็มปีจากโครงการที่เข้าลงทุนในปี 2566 ปะรกอบด้วย

- โรงไฟฟ้า RISEC กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass บริษัทโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค CDI รวมถึงรับรู้รายได้เพิ่มจากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า EGCO Cogeneration ส่วนขยาย กำลังผลิตสุทธิ 74 เมกะวัตต์ จ.ระยอง

-การทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของโครงการ Yunlin และการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบและการขายโครงการพลังงานหมุนเวียนภายใต้ APEX

-ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า Paju ES ที่มีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่อง ปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาจากสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น

-ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ซึ่งจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน”

สำหรับความคืบหน้าของโครงการ Yunlin หลังจากได้ติดตั้งเสากังหัน (Monopile) รวม 45 ต้น ในแบบกังหันลม (Wind Turbine Generator) จะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วทั้งสิ้น 33 ต้น คิดเป็นกำลังผลิตรวม 264 เมกะวัตต์ มีกำลังการผลิตไฟฟ้า (Capacity Factor) เฉลี่ยของโครงการสูงกว่า 40% ที่จะนำไปสู่โอกาสการสร้างรายได้ในอนาคต

เปิดคัมภีร์ 4 S
EGCO บริหารพอร์ตสู่พลังงานยั่งยืน

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2567 EGCO Group มุ่งมั่นแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงาน ภายใต้กลยุทธ์ “4S”

-Strengthen สร้างความเข้มแข็ง
สร้างความสามารถในการแข่งขันทางการเงินและปรับปรุงอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ

-Streamline บริหารพอร์ตให้มีประสิทธิภาพ
บริหารพอร์ตโฟลิโอและโรงงานไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันกว่า 40 แห่ง รวมทั้งธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

-Select เลือกธุรกิจตอบโจทย์พลังงานอนาคต
มุ่งเน้นการลงทุนและเดินเครื่องโรงไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งสนับสนุนเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานไปสู่พลังงานสะอาดในพื้นที่ตั้งของโรงงาน รวมถึงขยายพอร์ตโฟลิโอพลังงานหมุนเวียน

-Speed Up มีความว่องไว และคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ
เร่งรัดบริหารโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างให้เสร็จตามแผนงาน ได้แก่ Yunlin และ APEX
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ บริษัทโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค PT Chandra Daya Investasi (CDI) ในอินโดนีเซีย ระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) โครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง (ERIE) บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (Innopower) และบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน บริษัท เพียร์ พาวเวอร์ จำกัด (Peer Power)

ในขณะเดียวกัน ก็จะเร่งรัดบริหารโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนงาน และบริหาร Portfolio และโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันกว่า 40 แห่ง รวมทั้งธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับโอกาสการลงทุนใหม่ในอนาคตอันใกล้ EGCO Group คาดว่าจะสามารถปิดดีลโครงการใหม่ในรูปแบบ M&A อีก 2-3 โครงการ ภายในปี 2567 ในขณะเดียวกัน มีโอกาสสูงมากในการต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวของโรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปปินส์ ที่จะหมดสัญญาในเดือนพฤษภาคม ปี 2568 โดยคาดว่าจะทราบผลการเจรจาที่ชัดเจนเร็ว ๆ นี้